"ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนการสร้างแบรนด์ที่ดีได้"
แบรนด์ของคุณคือตัวตนที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจของคุณ คืออัตลักษณ์และตัวตนของแบรนด์ (Brand Identity) เป็นสิ่งที่ผู้คนนึกถึงเมื่อนึกถึงผลิตภัณฑ์ของคุณ ตั้งแต่โลโก้และกราฟิกไปจนถึงสีที่ใช้ หากแบรนด์ของคุณแข็งแกร่ง คุณจะดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย
ลูกค้าจะซื้อจากแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจและรู้สึกดี กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากมีการสร้างแบรนด์ที่สอดคล้องกันในทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่เว็บไซต์ของคุณ โซเชียลมีเดีย ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ ภาพลักษณ์เชิงบวกจะถูกสร้างขึ้น การทำให้ลูกค้าจดจำคุณเป็นสิ่งสำคัญในการกระตุ้นยอดขาย ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้น
“ภาพลักษณ์ของแบรนด์” เป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของธุรกิจ แม้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่ได้ซื้อสินค้าเพราะชื่อแบรนด์ แต่ซื้อที่คุณภาพของสินค้าและราคา อย่างไรก็ตาม หลายบริษัทยังคงใช้จ่ายเงินจำนวนมากในการทำตลาดผลิตภัณฑ์ของตนเพื่อทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค ชื่อเสียงนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ลูกค้าซื้อสินค้าและบริการ หากพวกเขารู้จักคุณและบริษัทของคุณ พวกเขาจะรู้สึกมั่นใจที่จะซื้อสินค้าจากคุณ
ลูกค้ามักจะชอบซื้อจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้มากกว่าแบรนด์ใหม่ เช่นเวลาเขาซื้อรถ เขามักจะขอข้อมูลรถของเพื่อนและคนรู้จักก่อนเสมอ หรืออ่านรีวิวตามกระทู้ในกลุ่มเพจต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลพิจารณาการตัดสินใจ แต่นอกจากประสิทธิภาพ, ฟังก์ชั่น, เทคโนโลยี ที่สัมพันธ์กับราคาแล้ว รถที่มีภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดีและทันสมัยก็สามารถมีโอกาสขายได้มากขึ้นเหมือนงานศิลปะ เพราะยังมีกลุ่มคนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงและเปิดรับแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นโดยไม่ได้ยึดติดกับเจ้าตลาดเดิมอีกต่อไป
สินค้าฟุ่มเฟือยต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีจึงจะขายได้ในราคาที่เหมาะสม การออกแบบของพวกเขาถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันและภาพลักษณ์ของแบรนด์เหล่านี้จะต้องสะท้อนถึงความพยายามนี้ เมื่อซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย คุณจ่ายเงินมากกว่าแค่ตัวสินค้า คุณกำลังจ่ายเงินสำหรับตัวตนของแบรนด์และคุณภาพที่สื่อถึง หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณอาจคิดว่าคุณไม่สามารถสร้างแบรนด์ได้ แต่นี่ไม่เป็นความจริง ทุกธุรกิจควรมีภาพลักษณ์ของแบรนด์ และคุณสามารถเริ่มสร้างแบรนด์ของคุณเองได้ หากคุณทำเช่นนั้น คุณต้องแน่ใจว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์ของคุณตรงกับผลิตภัณฑ์ที่คุณขาย
การวิจัยชี้ให้เห็นว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ
การศึกษาพบว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์คิดเป็น 20% ของการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ซึ่งหมายความว่าหากบริษัทมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและเป็นมิตร ก็มีแนวโน้มที่จะเห็นยอดขายเพิ่มขึ้น ลูกค้าจะไม่ซื้อจากแบรนด์ที่พวกเขาไม่รู้จัก แต่พวกเขาจะจดจำแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจและใช้ซ้ำๆ
แบรนด์หรือบริษัทที่มีภาพลักษณ์ที่ดีสามารถสร้างรายได้มากมายจากลูกค้าเพียงรายเดียว ตัวอย่างเช่น Nike ขายผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายประเภทเนื่องจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ยอดเยี่ยม ลูกค้ามีความมั่นใจซื้อของจาก Nike เพราะชอบแบรนด์ ดูเท่ ทรงพลังและมีสไตล์ บริษัท Nike ทำเงินได้มากมายจากการขายรองเท้า,กระเป๋า,เสื้าผ้าแฟชั่นได้จำนวนมาก เนื่องจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ยอดเยี่ยม
เราสามารถสร้างภาพลักษณ์หรือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้ เช่น มีบริการที่ดีที่สุด สินค้า สถานที่ที่สะดวกที่สุด และราคาที่ดีที่สุด แต่ถ้าแบรนด์ของเราไม่สะท้อนสิ่งที่เราอยากให้ลูกค้ารู้ ก็อาจถูกลืม และหายไปจากใจลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของแบรนด์อาจไม่สำคัญเท่ากับปัจจัยอื่นๆ เช่น ราคา คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการบริการลูกค้า ส่วนใหญ่แล้ว ลูกค้าให้ความสำคัญกับการค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุดและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
แล้วภาพลักษณ์ของแบรนด์ มีความสำคัญและส่งผลต่อการขายหรือไม่ ?
คำตอบอาจขึ้นอยู่กับสินค้าและลูกค้า สินค้าบางอย่าง เช่น สินค้าฟุ่มเฟือย มักถูกซื้อเนื่องจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ ลูกค้าต้องการอวดว่าสามารถซื้อแบรนด์ราคาแพงได้ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น รายการของชำ มักจะซื้อเพื่อคุณภาพหรือราคา แทนที่จะซื้อเพื่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
สรุปสั้นๆคือ
“สิ่งสำคัญสำหรับแบรนด์คือต้องมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและเป็นมิตร เนื่องจากลูกค้าจะซื้อจากแบรนด์ที่พวกเขาไว้วางใจและรู้สึกดีด้วย”